บริษัท เอ็น วาย เค ออโต้ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NALT (ท่าเทียบเรือเอ 1) ได้รับสัมปทานมาจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกอยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 130 กิโลเมตร และห่างจากเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีประมาณ 25 กิโลเมตร ท่าเรือนี้อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่จำนวน 6,504.6 ไร่ ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยมีผู้ประกอบการท่าเรือรับสัมปทานพื้นที่เพื่อบริหารจัดการท่าเทียบเรือ จากการท่าเรือ
ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 1 เริ่มการก่อสร้างท่าเรือฝั่งเอในปีพ.ศ. 2530 และในปี 2534 เริ่มการก่อสร้าง ท่าเรือ บี1 และบี 3 เป็น 2 ท่าเรือแรก และอีก 9 ท่าเรือในเวลาต่อมา โดยมีท่าเรือฝั่งเอทั้งหมด 11 ท่าเรือ ซึ่งแบ่งเป็นท่าเรือคอนเทนเนอร์จำนวน 7 ท่าเรือ (เอ2 เอ3 บี1-บี5) 1 ท่าเรือชายฝั่งและ ท่าเรือบริการเทียบท่า (เอ0) 1 ท่าเรือโดยสาร (เอ1) 1 ท่าเรือสินค้าทั่วไป และ 1 ท่าเรือส่งออกรถยนต์ ซึ่งหน้าท่าเรือฝั่งเอมีความลึกอยู่ที่ 14 เมตร สามารถประกอบกิจการและให้บริการได้อย่างครบวงจรในส่วนของ การขนถ่ายสินค้า คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า การนำร่อง การบำบัดน้ำเสีย การเก็บและกำจัดขยะ บริษัท เอ็น วาย เค ออโต้ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NALT (ท่าเทียบเรือเอ 1) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยการเข้าร่วมประมูลพื้นที่เพื่อรับสัมปทาน การบริหารจัดการท่าเทียบเรือฝั่งเอ ท่าเรือหมายเลข 1 ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง
รายได้จากการบริหารงานท่าเรือโดยสารอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านดอลล่าห์สหรัฐต่อปี โดยเราถือว่าเป็นท่าเรือโดยสารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถให้บริการเทียบท่าเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดได้ ภายใต้การบริหารงานของ NALT ซึ่งเป็น 1 ใน เครือของกลุ่มบริษัท NYK ในประเทศไทย ทั้งนี้การบริหารงานท่าเรือโดยสารเริ่มเปิดบริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา
เราเป็น 1 ในท่าเรือที่ดีที่สุดในการให้บริการท่าเรือส่งออกรถยนต์ (โรโร)ในประเทศไทย ซึ่งสามารถรองรับเรือรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกได้ อีกทั้งเรายังเป็นผู้ให้บริการที่ครบวงจรที่สุดในส่วนของการขนส่งทั้งทางภาคพื้นดินและภาคพื้นสมุทร ซึ่งสามารถรองรับสินค้าประเภทรถยนต์ได้ถึง 25,000 คันต่อปี
Since annoucing the NYK Group ESG Story in February 2021, the NYK Group has annually reported on its progress through an ESG Story. In November 2023, we released NYK Group ESG Story 2023, which summarizes our lastest achievements, together with the NYK Group Decarbonization Staory, which outlines our specific initiatives aimed at realizing a carbon-free society. NYK Group ESG Story 2023 also provides non-financial information not included in the medium-term management plan announced in March 2023.
In fiscal 2023, we formulated the NYK Group CX Story, which is a strategy for improving the professional skills of group colleagues even further. The Chief Human Resources Officer and other members of the Human Resources Team earnestly prepared concrete HR policies in line with my strong desire to encourage NYK Group colleahues all over the world to be more excited avout their work. Of the Group's more than 35,000 employees, roughly 80% work outside Japan. Our strategy is to establish a vision of the human resource required for a truly global company and then develop the systems and career paths necessary to realize this vision. These efforts will be baseds on the concept of "a global company headquartered in Japan" rather than the approach of"a Japanese company operation globally.""
The ESG Story and other stories result from thorough discissions focused on the NYK Group's three material isseds---Safety, the Environment, and Human Resource---and have been incorporated into specific measures and plans. As we hold briefing at our operating bases around the world, the enthusiasm with which participants are commenting and asking questions is greater than ever before. For this reason, I feel that the type of ESG management that we initially sought is beginning to acqouire its own momentum. Rather than taking measures bases on a one-way process led by the head office, frontline employees are thinking and acting on their own initiative.